โรคความดันโลหิตสูง ภัยเงียบที่หลายคนมองข้าม
โรคความดันโลหิตสูง ถือว่าเป็นภัยเงียบที่หลายคน อาจจะมองข้าม เพราะว่า ความดันโลหิตสูง ในระยะแรก ๆ มักไม่มีอาการ ทำให้คนส่วนมาก อาจจะไม่รู้ตัว วันนี้ทางเราได้ข้อมูลมาจากเพจ ThaiRun ฮับความสุขนักวิ่ง ถือว่ามีประโยชน์มาก จึงอยากนำมาแชร์ต่อ
ทั้งนี้ ผลกระทบจากการเป็นโรคนี้ ผู้ที่เพิ่งมีอาการเริ่มแรก มักจะต้องเจอกับการปวดมึนท้ายทอย เวียนศีรษะ ตึงที่ต้นคอ ในบางรายอาจมีอาการปวดศีรษะตุบ ๆ ลักษณะคล้ายกับการเป็นไมเกรน แต่ในผู้ป่วยที่เป็นมานาน ก็อาจมีอาการใจสั่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และนอนไม่หลับ เมื่อมีอาการมาก อาจส่งผลให้เกิดอาการโคม่า อันตรายที่สุดคือ อาจจะส่งผลถึงชีวิตได้
เราจะสังเกตอาการความดันโลหิตสูงได้อย่างไร ?
ความดันโลหิตสูง เปรียบเสมือนภัยเงียบ ถ้าหากความดันสูงเล็กน้อย หรือปานกลาง มักจะไม่มีอาการเตือนให้เรารู้ตัว แต่สำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงมากนั้น ก็อาจมีอาการเหล่านี้ แสดงให้เห็นได้ เช่น ปวดมึนบริเวณท้ายทอย ปวดศีรษะตุบ ๆ เวียนศีรษะตอนตื่นนอนใหม่ ๆ เหนื่อยง่าย ตาพร่ามัว และเจ็บหน้าอก เป็นต้น
สำหรับใครที่มีเครื่องวัดความดัน สามารถเช็กความดันได้ง่าย ๆ เรียกสั้นๆ ว่า 120/80 หรือโดยความดันโลหิตค่าบนไม่เกิน 120 มม.ปรอท และความดันโลหิตค่าล่างไม่เกิน 80 มม.ปรอท
วิธีป้องกันความดันโลหิตสูง
หลายๆ คนอาจจะคิดว่า ถ้าเป็นความดันโลหิตสูง แล้วไปออกกำลังกาย หัวใจก็เต้นแรงขึ้น เสี่ยงทำให้เส้นเลือดแตก กลายเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิตได้ จึงไม่กล้าออกกำลังกายที่ระดับความเหนื่อยมาก ๆ หรือหลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย แต่ในปัจจุบันนี้ โรคความดันโลหิตได้รับการวิจัย และยืนยันแล้วว่า ควบคุมอาหาร การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และออกกำลังกาย สามารถป้องกัน และช่วยบรรเทาโรคนี้ได้
วิธีการออกกำลังกายสำหรับผู้เป็นความดันโลหิตสูง
แพทย์ส่วนมาก จะแนะนำให้ออกกำลังกายโดยการทำแอโรบิก (Aerobic) เช่น วิ่งจ๊อกกิ้งเบา ๆ การเดินเร็ว ว่ายน้ำหรือขี่จักรยาน ซึ่งจะเป็นการออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง