เพื่อไทย-ภูมิใจไทย จับมือเดินเกมลึก “รัฐบาลฟิวชัน” ผลักก้าวไกลนั่งฝ่ายค้าน

เพื่อไทย-ภูมิใจไทย

สารบัญเนื้อหา

เพื่อไทย-ภูมิใจไทย

เพื่อไทย-ภูมิใจไทย จับมือเดินเกมลึก

“รัฐบาลฟิวชัน” ผลักก้าวไกลนั่งฝ่ายค้าน

เวลากว่า 2 เดือน หลังจากผ่านการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ยังไร้นายกฯ หลังจากพรรคก้าวไกล เสนอชื่อนาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แต่ไม่ผ่านการโหวตฯ ทำให้พรรคเพื่อไทย ที่มีคะแนนรองลงมาเป็นอันดับ 2 ก้าวขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง พร้อมประกาศแยกทางกับพรรคก้าวไกล ล่าสุดการโหวตนายกฯ ที่เดิมมีแผนวันที่ 4 สิงหาคม นี้ ต้องเลื่อนไปพร้อมแผนที่พรรคเพื่อไทย เตรียมประกาศพรรคร่วม ในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อีกครั้ง ท่ามกลางสถานการณ์อึมครึม นักวิเคราะห์การเมือง มองสูตรตั้งรัฐบาลใหม่ของพรรคเพื่อไทย ที่มีพรรคภูมิใจไทย เป็นแกนหลักสำคัญ และต้องดูการต่อรองของพรรค 2 ลุง ถ้าหากต้องการรัฐบาลที่เข้มแข็ง

เพื่อไทย-ภูมิใจไทย การจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้งของพรรคเพื่อไทย หลังแยกทางจากพรรคก้าวไกล ทำให้พรรคภูมิใจไทย ขึ้นมาเป็นส่วนสำคัญของการจัดตั้งรัฐบาล เพราะเมื่อใด ที่พรรคภูมิใจไทยถอนตัว ก็มีโอกาสทำให้ฝันสลายทันที ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ วิเคราะห์กับรศ.ดร.ธนภัทร ปัจฉิมม์ คณบดีโรงเรียนกฎหมาย และการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ว่า การเลื่อนวันเพื่อโหวตนายกฯ เป็นเรื่องดีต่อพรรคเพื่อไทย เพราะได้มีเวลาเจรจากับพรรคการเมืองอื่น ๆ ที่จะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลมากขึ้น ประกอบกับประธานสภา จะมีความระมัดระวังมากขึ้น ในการประชุม เพื่อโหวตนายกฯรอบใหม่

เพื่อไทย-ภูมิใจไทย

“ส่วนตัวเชื่อว่า การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการโหวตคุณพิธา ซ้ำรอบสอง น่าจะเสร็จภายใน 1-2 อาทิตย์ และแม้จะมีการเลื่อนการโหวตนายกฯ เกิดขึ้น แต่ก็เป็นเพียงเทคนิคการชะลอเพื่อตั้งรัฐบาลเท่านั้น ซึ่งไม่มีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย และคาดว่าพรรคภูมิใจไทย เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่ช่วงเวลานี้ก็ต้องจับตาดูว่า ถ้าพรรคเพื่อไทย ต้องการรัฐบาล ที่เป็นปึกแผ่น ต้องดึงพรรค 2 ลุงเข้ามา ทำให้มีคะแนนเสียงในสภามากกว่า 300 เสียง”

การตั้งรัฐบาลรอบนี้ของพรรคเพื่อไทย ต้องจับตาดูการเดิมเกมลึกของพรรคภูมิใจไทย นำโดย คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งมีท่าทีเปลี่ยนไป จากเดิม หลังจากเคยมีการปะทะคารม กับคุณเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ก็เริ่มอ่อนลง เพราะที่ผ่านมาเป็นแค่ละครการเมืองในช่วงหาเสียงเท่านั้น แต่อย่าลืมว่าเขาเป็นกลุ่มนายทุนทั้ง 2 ฝ่าย ดังนั้น การสมผลประโยชน์ทางการเมืองคือ การทำผลประโยชน์ของทั้ง 2 ฝ่ายให้ลงตัว

เพื่อไทย-ภูมิใจไทย

เชื่อว่าคุณทักษิณ ชินวัตร ก็ยอมให้พรรคภูมิใจไทย เข้ามามีบทบาท ในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้อีกด้วย ประกอบกับบางสิ่งที่เคยทำไว้อาจก่อปัญหาได้ในอนาคตได้ ดังนั้นการกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งของพรรคภูมิใจไทย จะช่วยทำให้เคลียร์ประเด็นต่าง ๆ ได้ดีมากขึ้น หรือถึงแม้ว่าจะไม่ได้คุมกระทรวงเดิม แต่การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังสามารถคุยกันได้มากกว่า

“การแสดงท่าทีของคุณอนุทิน ในเวลานี้ เป็นการแสดงท่าทีที่สยบ และยอม เพื่อที่จะได้เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดยมีการนำของคุณเศรษฐา ทวีสิน ต่างจากการแสดงท่าทีปฏิเสธการเข้าร่วมรัฐบาล เหมือนกับพรรคเป็นธรรม ชัดเจนว่ากอดคอกับพรรคก้าวไกล ไปเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งตอนนี้พรรคการเมืองต่าง ๆ ไม่มีพรรคไหนที่แสดงท่าทีว่า จะไปเป็นฝ่ายค้านกับพรรคก้าวไกล และพรรคเป็นธรรม นี่จึงเป็นนัยหนึ่งที่พรรคการเมืองต่าง ๆ พร้อมเข้าร่วมรัฐบาล กับพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะพรรค 2 ลุง ที่วันนี้ ยังไม่แสดงท่าทีถึงความชัดเจน แต่เวลาที่เหลืออยู่อาจค่อย ๆ ลดบทบาท 2 ลุง เพื่อเข้าร่วมรัฐบาลก็ได้”

แต่ก็อย่าลืมว่า ถ้าไม่ได้คะแนนเสียง จากพรรค 2 ลุง ที่อนาคตอาจรวมกัน จะทำให้พรรคภูมิใจไทย ที่มาเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย มีการต่อรองที่มาก และเสี่ยงถ้าพรรคภูมิใจไทย เกิดไม่พอใจแล้ว ถอนตัวจากพรรคร่วม รัฐบาลก็สามารถล้มได้เช่นกัน ดังนั้นการนำพรรค 2 ลุง เข้ามา เพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นของฐานเสียงในสภา จึงเป็นอีกทางเลือก

เพื่อไทย-ภูมิใจไทย

จากการประเมินแล้ว ถ้าพรรคเพื่อไทยจับมือ กับภูมิใจไทย การจัดตั้งรัฐบาลจะสร้างปรากฏการณ์ทางการเมือง ที่มีการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี ในกระทรวงต่างๆ อย่างลงตัว พรรคเพื่อไทย จะมีความเป็นปึกแผ่นมากขึ้น เพราะคนของพรรคภูมิใจไทย ส่วนใหญ่ก็เป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย ในอดีตทั้งสิ้น จึงเหมือนกับการที่ได้กลับไปอยู่บ้านเก่า และเป็นการสร้างโมเดล “พรรคเพื่อไทยใหม่” ที่สามารถคุยตกลงกันง่ายมากขึ้น

ที่มา home