อะไรก็เกิดขึ้นได้ ยังมีเวลาอีกกว่าจะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

โหวตเลือกนายก

สารบัญเนื้อหา

อะไรก็เกิดขึ้นได้

อะไรก็เกิดขึ้นได้ ยังมีเวลาอีกกว่าจะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

อะไรก็เกิดขึ้นได้ ยังมีเวลาอีกพอสมควร กว่าจะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนการพิจารณา รับ หรือไม่รับคำร้อง ให้วินิจฉัยประเด็นปัญหาการโหวตซ้ำได้หรือไม่

ไปเป็นวันที่ 16 สิงหาคม 66 ทำให้ประธานรัฐสภา จำเป็นต้องเลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรี จากเดิมวันที่ 4 สิงหาคม ไปจนกว่าจะทราบผล การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

หลายอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น เลยต้องเลื่อนกันไปเป็นทอด ๆ ตามที่กำลังเป็นข่าว อยู่ในช่วงนี้ นั่นทำให้ กว่าจะรู้ผลว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ก็ต้องรอไป หวังวันที่ 16 สิงหาคมนี้ จะต้องกำหนดวันโหวตอีกครั้ง

“พรรคเพื่อไทย” เลยมีเวลาอีกพอสมควร ที่จะจัดองค์ ปรุงแต่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อีกครั้ง ก่อนที่จะเสนอให้รัฐสภาโหวตกัน

แม้เพิ่งจะแยกทางกับ “พรรคก้าวไกล” มาหมาด ๆ ก็เป็นอิสระในการตั้งรัฐบาล ตามที่ต้องการ ถือว่าได้ผ่อนแรงกดดันไประดับหนึ่ง แต่ในอีกแง่หนึ่ง การทอดระยะออกไปอาจเกิดปัญหา และความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่พร้อมที่จะเกิดขึ้น ได้ทุกเมื่อสำหรับประเทศไทยในตอนนี้

อีกมุมหนึ่ง การตัดสินใจฉีกตัวจาก “พรรคก้าวไกล” เพื่อสร้างฉากทัศน์ใหม่ ๆ นั้นทำให้มวลชนส้มเกิดความไม่พอใจ

และเวลา อาจจะช่วยดับอารมณ์ขุ่นมัวให้เบาบางไปบ้าง

การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ที่ไร้ข้อจำกัดนี้ จะเหลือเพียงแค่ว่าจะตัดสินใจอย่างไรกับ “พรรค 2 ลุง” คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ และนั้นมีอยู่ 2 มุมเช่นเดียวกัน

1.ถ้าหากนำมาร่วมจัดตั้งรัฐบาล จะทำให้เสียงสนับสนุนหนักแน่นมากขึ้น ไม่ต้องหวั่นไหวไป กับเรื่องเสียงปริ่มน้ำ

ที่มั่นคง ก็พรรคเพื่อไทยนี้ จะได้รับการสนับสนุนจาก สว.อย่างแน่นอน

แต่ปัญหาก็คือความไม่พอใจของบรรดามวลชนทั้งฝ่าย เสื้อแดงเอง และเสื้อส้มที่ไม่ต้องการให้ 2 พรรคนี้ทำงานร่วมกัน

2.บรรดาแกนนำของ “พรรคเพื่อไทย” เอง อย่างน้อย ๆ 2-3 คน เคยประกาศระหว่างการหาเสียงว่า จะไม่ร่วมสังฆกรรมกับ “2 ลุง” อย่างแน่นอนซึ่งเป็น “ก้างตำคอ” ที่เลี่ยงพ้นยาก

“ก่อนพูดเราเป็นนาย หลังพูดมันเป็นนายเรา” อย่างที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีเคยเตือนสติเอาไว้

ยิ่งเดี๋ยวนี้ มีพยานหลักฐานผูกมัดแน่นหนาแก้ตัวยาก

ทางเลือกของ “พรรคเพื่อไทย” ในการดึงพรรคการเมืองอื่น ๆ มาร่วมนั้น ก็พอมองเห็น และเป็นไปได้ก็มีภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติพัฒนากล้า ชาติไทยพัฒนา ประชาชาติ และพรรคเล็กอื่น ๆ แม้จะได้หนุนเกินกึ่งหนึ่ง แต่ในด้านความมั่นคงนั้นค่อนข้างจะเปราะบาง

ส่วนฝั่ง “พรรคก้าวไกล” ที่ประกาศว่าจะเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งพร้อมเดินหน้าอย่างเต็มรูปแบบผสมกับความรู้สึกที่อัดอยู่ในอก

ถือว่าน่ากลัวไม่น้อย แต่ว่ายังไงเสีย “พรรคเพื่อไทย” คงไม่กลัวเรื่องนี้เป็นแน่ แต่ยังไงก็คงต้องดูแลแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่จะส่งเข้าชิงให้ดี เพราะกว่าจะถึงวันโหวตจะมีเหตุให้ถูกอับแสง หรือไม่มิอาจคาดเดาเกิดขึ้นได้

ที่มา home